จับตาพายุบัวลอย-ไต้ฝุ่นนอกูรีอย่างใกล้ชิด มุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่น

เรื่องราวของพายุนั้น หากไม่มี ไม่เกิดขึ้นได้ก็จะดีมาก แต่เราไม่สามารถห้ามพายุไม่ให้เกิดได้ และห้ามไม่ให้พายุเข้ามาได้ สิ่งที่เราทำได้เพียงแค่จับตาดูว่าพายุมันกำลังจะเคลื่อนที่ไปทางไหน หากออกจากไทยไปเราก็สบายใจ แต่หากไม่ไปเข้าใกล้เข้ามาแม้เพียงเฉียดๆ ก็น่ากลัวเหมือนกัน ล่าสุดต้องจับตาพายุบัวลอย กับไต้ฝุ่นนอกูรี อย่างใกล้ชิด

เราดูไต้ฝุ่นจากไหน

คำถามแรกเราเคยสงสัยกันบ้านไหมว่า เวลามีข่าวอุตุนิยมวิทยาอย่างเช่นที่เรากำลังจะเล่าบอกว่าพายุกำลังจะเดินทางไปตรงนั้นตรงนี้ ไปไหนต่อไหน เค้ารู้ได้อย่างไร คำตอบก็คือ เค้าสังเกตมวลของอากาศที่จับตัวกันเป็นก้อนใหญ่ หากมันรวมตัวกันมากขึ้นแสดงว่ามันจะต้องกลายเป็นพายุแล้ว อันนี้ต้องรีบเตือนให้คนรับมือ ส่วนคนที่ทำหน้าที่มองตรงนี้อยู่ก็คือ ดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลกนั่นเอง ดาวเทียมจะส่งภาพกลับมาจากนั้นเราก็เอาภาพนั้นมาคำนวณหาทิศทาง ความเร็วลม ว่าจะเป็นอย่างไร เดินทางไปตรงไหน แล้วก็ส่งข่าวไปยังอุตุนิยมวิทยานี่แหละที่มาของการสืบดูไต้ฝุ่น

ไต้ฝุ่นสองลูกที่กำลังก่อตัวขึ้น

ทีนี้เรามาดูข่าวกันบ้างช่วงปลายเดือนตุลามีข่าวน่ากลัวเกี่ยวกับพายุอยู่ อย่างแรกเลย ดาวเทียมได้จับภาพที่ไม่น่าดูเท่าไรนักได้ มันคือภาพการเกิดไต้ฝุ่นชื่อว่าบัวลอย ตอนแรกมันเป็นเพียงแค่พายุดีเปรสชั่นเท่านั้น แต่เรื่องมันแย่ลงไปอีกเมื่อมันพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นพายุโซนร้อน แล้วสุดท้ายกลายเป็นพายุไต้ฝุ่น อีกลูกหนึ่งชื่อว่า ไต้ฝุ่นนอกูรี แต่เดิมเป็นไต้ฝุ่นก็จริงแต่อ่อนกำลังลงแล้วเหลือเพียงแค่ระดับพายุโซนร้อนเท่านั้นเอง ถือว่าเป็นเรื่องดี

การเดินทางพายุทั้งสองลูก

ทีมงานที่จับตาพายุลูกนี้เริ่มจาก อุตุนิยมวิทยาของประเทศฟิลิปปินส์ได้จับตามองมันอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมันอยู่ใกล้ฟิลิปปินส์มากมีโอกาสที่จะเข้าด้วย แต่โชคยังดีที่พายุลูกนี้ทำได้แค่ผ่านเฉียดๆ เท่านั้นเองไม่ได้เข้าฟิลิปปินส์โดยตรง ผ่านไปทางอื่นแทน ส่วนทางไต้ฝุ่นนอกูรีนั้น แม้จะลดเป็นโซนร้อนแต่ก็เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นแล้วมีผลทำให้ฝนตกได้มากทีเดียวโดยเฉพาะเกาะฮอนชู เกาะทางตะวันออกของญี่ปุ่น กลับมาที่ไต้ฝุ่นบัวลอยอีกทีแม้จะไม่เข้าฟิลิปปินส์ แต่มีแนวโน้มมากว่าจะเดินทางไปขึ้นฝั่งของประเทศญี่ปุ่น ด้วยความเร็วลมที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถือว่าเป็นพายุที่มีความรุนแรงอันตรายพอสมควรทีเดียว

ญี่ปุ่นเตรียมรับดาบสอง

พายุทั้งสองลูกนี้ หากเป้าหมายต่อไปของทั้งคู่เป็นประเทศญี่ปุ่นจริง อันนี้ต้องบอกว่าสาหัสเลย เพราะว่าญี่ปุ่นเพิ่งจะประสบปัญหาภัยธรรมชาติที่ชื่อว่า พายุฮากิบิส ไป หากเค้ามาเจออีกสองลูกนี้อีกถือว่าอันตราย น่ากลัวอย่างมาก บ้านเมืองยังไม่ทันได้ฟื้นฟูตัวดี กลับต้องเจอพายุกระหน่ำใส่อีกแล้ว สุดท้ายแล้วต้องมาดูกันว่าพายุสองลูกนี้จะเข้าไปในญี่ปุ่นหรือไม่ แต่ทางพายุนอกูรี ไปรอก่อนแล้ว (โชคดีอย่างหนึ่งมันมีความรุนแรงระดับ 1 (ต่ำสุด) เท่านั้น) แต่พายุบัวลอยต้องรอลุ้นว่าจะเป็นอย่างไร หวังว่าพี่บัวลอยคงจะไม่ไปซ้ำเติมกันอีกรอบหนึ่งนะ หากพายุเข้าจริงบริเวณที่น่าจะโดนผลกระทบหนักที่สุดคงจะเป็นเมืองโอซาก้า เกียวโต นาโงยา โตเกียว และพื้นที่ใกล้เคียง ใครที่คิดจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นในช่วงเวลาดังกล่าวต้องวางแผนกันให้ดี หากเลี่ยงได้เลี่ยงดีกว่า ใครมีญาติพี่น้องไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงเวลาดังกล่าว พื้นที่ดังกล่าวก็อยากให้โทรศัพท์ติดตามถามไถ่กันหน่อยเป็นระยะ