ในรอบปีที่ผ่านมาข่าวที่สร้างความน่ากลัว หนักใจให้กับชาวเกษตรกรทุกคนที่เจอก็คือ ข่าวน้ำท่วมสูง ปีนี้ไทยเราได้เจอกับบททดสอบทางธรรมชาติที่น่ากลัวอีกครั้งหนึ่งนั่นก็คือ การเข้ามาของพายุโพดุล และ พายุคาจิกิ แน่นอนว่าพอเข้ามาก็ทำให้ไทยเราต้องใช้คำว่า อ่วม กันเลยทีเดียวทั้งสภาพบ้านเรือน พืชนา พืชไร่เสียหาย ยังไม่รวมถึงอาการบาดเจ็บ เสียชีวิตที่เกิดขึ้นมาด้วย
จากพายุทั้งสองลูก ทำให้ไทยเราพื้นที่เสียหายไปเยอะทีเดียว ตั้งแต่เหนืออีสาน กลาง ใต้ โดนพายุเข้ากระหน่ำแตกต่างกันไป จังหวัดที่มีผลกระทบจากพายุดังกล่าวมีทั้งหมด 32 จังหวัดได้แก่ อำนาจเจริญ กระบี่ ปราจีนบุรี แพร่ นครพนม เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ระนอง เพชรบูรณ์ มหาสาคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ น่าน ตราด มุกดาหาร อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ สุรินทร์ พิษณุโลก พิจิตร แม่ฮ่องสอน ชุมพร อุดรธานี สระแก้ว ลำปาง เลย สุโขทัย ศรีสะเกษ และ สกลนคร จากทั้งหมดหากคิดเป็นตัวเลขตามสถิติอยู่ที่ 166 อำเภอ 748 ตำบล 5,138 หมู่บ้าน 5 เขตเทศบาล 11 ชุมชน คิดเป็นผู้ได้รับความเสียหายที่ 335,832 ครัวเรือน เสียชีวิตทั้งหมด 24 ราย บาดเจ็บ 1 คน ถือว่าเป็นตัวเลขที่มากพอดูทีเดียว
พายุทั้งสองลูกไม่เพียงแค่มาพร้อมกับน้ำฝนที่หอบขึ้นมาด้วย แต่น้ำฝนตกกระหน่ำทำให้เกิดภัยพิบัติอื่นตามมาอีกยอะเลย ซึ่งภัยพิบัติตรงนี้แหละที่เปรียบเสมือนเป็นดาบสอง ดาบสามที่ทำให้หลายคนเจอความเสียหายที่คาดไม่ถึง ตั้งแต่น้ำท่วมฉับพลัน จนถึงน้ำท่วมขังเป็นเวลานานทำให้ข้าวของเสียหาย สองน้ำป่าไหลหลากที่มาอย่างเร็วจนทำให้ชาวบ้านตั้งรับมือไม่ทันว่าต้องจัดการอย่างไร และสามดินสไลด์ที่ทำให้ถนหลายเส้นทางโดนปิดทางไม่สามารถใช้สัญจรได้ หรือ ถนนขาด สะพานขาดก็ได้ด้วยเช่นกัน ภัยพิบัติเหล่านี้ทำให้ประชาชนในพื้นที่ลำบากมาก
อย่างไรก็ตามทางภาครัฐก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวมีการช่วยเหลือบางส่วนเข้าไปในพื้นที่บ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดทีมเคลื่อนที่เร็วเข้าไปเพื่อช่วยแจกวัสดุอุปกรณ์ ยา เวชภัณฑ์ และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านให้ดำรงชีพได้ในตอนต้น บางส่วนอาจจะมีการแจกจ่ายอาหาร ถุงยังชีพ ตั้งศูนย์ผู้พักพิงชั่วคราวเพื่อหนีน้ำก่อน พอน้ำลดแล้วเข้าไปใหม่
อย่างไรก็ตามตอนนี้การช่วยเหลือน้ำท่วมน่าจะเข้าสู่ช่วงของการฟื้นฟูแล้ว เพราะว่าน้ำคงลดลงไปมาก การฟื้นฟูถือว่าเป็นอีกงานหนึ่งที่มีความสำคัญมาก แต่รัฐให้ความสำคัญน้อย บ้านเรือนหลายคนถูกน้ำท่วมสูงเป็นเวลานาน ลองนึกภาพบ้านสองชั้น หรือ ชั้นครึ่ง โดนท่วมจนมิดหลังคาสิ เอาแค่การจัดการขยะ จัดการล้างบ้านตามคราบน้ำ ตะไคร่ที่ขึ้นอยู่มันก็เป็นเรื่องยากแล้วนะ ยังไม่รวมถึงการคัดแยกขยะ อุปกรณ์เครื่องใช้ที่ใช้ได้หรือไม่ได้อีก ที่สำคัญการซ่อมแซมบ้านให้กลับมาใช้ได้นี่แหละเป็นเรื่องใหญ่เลย บางคนบ้านโดนน้ำท่วมจนทำให้ไม้ผุกร่อนเสียหายจนไม่สามารถอยู่ได้ ต้องมาตั้งเตนท์นอกบ้านเพื่อมองบ้านตัวเอง เจอแบบนี้เข้าไปก็ตั้งตัวไม่ถูกเหมือนกัน ก็ได้แต่หวังว่าจะมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้จากภาครัฐ
ผลพวงจากพายุทั้งสองลูกน่าจะทำให้เราหันมาตื่นตระหนกเรื่องของการวางแผนรับมือกับภัยธรรมชาติรอบตัวกันบ้างได้แล้ว น่าแปลกว่าเรามีพายุเข้าทุกปี น้ำท่วมกันทุกปี แต่เรามีการวางแผนเพื่อลดความเสียหายน้อยมาก ก็ได้แต่หวังว่าปีหน้า ปีต่อไป รัฐบาลไทยจะมีมาตรการป้องกันภัยพิบัติอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อลดความสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด
No Comments